สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 1 ดำเนินการจัดการสอบแข่งขัน เพื่อบรรจุและแต่งตั้งบุคคลเข้ารับราชการเป็นข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ตำแหน่งครูผู้ช่วย ครั้งที่1 ปี พ.ศ. 2557 ในวันเสาร์ที่ 19 เมษายน 2557 และ วันอาทิตย์ที่ 20 เมษายน 2557 ณ สนามสอบแข่งขันฯ โรงเรียนสันติราษฎร์วิทยาลัย ผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 1 โดยนายอภิชาติ จีระวุฒิ เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน(เลขาธิการ กพฐ.) นางศิริพร กิจเกื้อกูล เลขาธิการคณะกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา(เลขาธิการ ก.ค.ศ.) พร้อมด้วยนางอ่องจิต เมธยะประภาส รองเลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (รองเลขาธิการ กพฐ.) นายประพันธ์ บุญเกียรติ ประธาน อ.ก.ค.ศ. สพม.1 และคณะติดตาม สพฐ. ได้เดินทางตรวจเยี่ยม สนามสอบแข่งขันในวันนี้ด้วย(19 เมษายน 2557)

ว่าที่ร้อยตรีอานนท์ สุขภาคกิจ ผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 1(ผอ.สพม.1) เปิดเผยว่าในการดำเนินการสอบแข่งขันฯ ได้วางมาตรการในการป้องกันการทุจริต อย่างเข้มงวด โดยวางมาตรการตั้งแต่กระบวนการรับสมัคร โดยมีการพิมพ์ลายนิ้วมือของผู้สมัครสอบบนบัตรประจำตัว ถ่ายภาพผู้สมัครและบัตรประจำตัว พร้อมทั้งตรวจสอบคุณสมบัติของผู้สมัครสอบและวิจัยเบื้องต้น ส่วนวันสอบข้อเขียน ห้ามมิให้ผู้นำอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์และอุปกรณ์สื่อสารทุกชนิดเข้าในห้องสอบโดยเด็ดขาด หากตรวจพบจะตัดสิทธิ์การสอบทันที นอกจากนี้ยังห้ามมิให้ผู้เข้าสอบสวม เสื้อคลุม เสื้อสูท รองเท้า และถุงเท้าเข้าห้องสอบด้วย ส่วนในกระดาษคำตอบทุกฉบับ ต้องประทับลายนิ้วมือของผู้เข้าสอบ โดยใช้หัวแม่มือขวา ทั้งภาค ก. และ ภาค ข. เพื่อยืนยันว่า ผู้เข้าสอบเป็นคนเดียวกันกับผู้สมัครสอบจริงๆ

ในกระบวนการสอบครูผู้คุมสอบ ซึ่งเป็นครูจากหลายโรงเรียนอาทิ โรงเรียนสันติราษฎร์วิทยาลัย โรงเรียนมัธยมวัดมกุฏกษัตริย์ โรงเรียนมัธยมวัดเบญจมบพิตร โดยจะต้องจับฉลากคุมห้องสอบ ห้องละ 2 คน ในการสอบทั้งสองวัน และได้ขออนุเคราะห์จากเจ้าหน้าที่ตำรวจจากสถานีตำรวจพญาไท ในเครื่องแบบ และนอกเครื่องแบบ เพื่อสังเกตพฤติกรรมของผู้เข้าสอบก่อนเข้าสอบ วันละ 10 นาย ใช้เครื่องตรวจวัตถุโลหะผู้เข้สสอบก่อนเข้าห้องสอบ และประสานงานไปยัง คณะกรรมการกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์(กสทช.) เพื่อจัดรถโมบายตรวจความถี่คลื่นสัญญาณแปลกปลอมในขณะสอบด้วย ในการสอบวันแรกมีผู้ขาดสอบจำนวน 136 คน จากผู้สมัครสอบ 1262 คนและยังไม่พบการทุจริตแต่อย่างใด มีเพียงผู้ไม่พกบัตรประจำตัวสอบเท่านั้น

ด้าน นายอภิชาติ เปิดเผยว่า ตนได้รับรายงานจากสายด่วนว่า การสอบครูผู้ช่วยครั้งนี้ มีข้าราชการครูวิทยฐานะชำนาญการพิเศษ ตำแหน่งผู้อำนวยการสถานศึกษา ไปสมัครสอบที่สนามสอบภาคกลาง 2 แห่ง และได้เข้าห้องสอบเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ซึ่งตนกำชับให้กรรมการผู้คุมสอบจับตามองเป็นพิเศษว่า จะมีพฤติกรรมที่ผิดสังเกตหรือไม่ พร้อมทั้งให้ทางสนามสอบตรวจสอบผ่านกล้องวงจรปิดด้วย หากพบสิ่งผิดปกติที่ส่อไปในทางทุจริตจะตั้งกรรมการสอบวินัยร้ายแรงทันที แต่หากไม่พบปัญหาใดก็จะเชิญตัวมาสอบถามรายละเอียดของการไปสมัครสอบในภายหลัง รวมถึงอาจมีการตั้งกรรมการสืบหาข้อเท็จจริงประกอบอีกทางหนึ่ง เพราะเรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องปกติ นอกจากนี้ยังได้รับรายงานว่ามีครูที่เพิ่งบรรจุเป็นข้าราชการครูมาสมัครสอบครูผู้ช่วยอีก 2 คน ซึ่ง สพฐ.ก็ไม่มีสิทธิ์ห้ามบุคคลตำแหน่งใดไปสมัครสอบครูผู้ช่วย ทำได้เพียงควบคุมและตรวจสอบให้ทุกอย่างเป็นด้วยความยุติธรรมโปร่งใสมากที่สุดเท่านั้น

“สำหรับเรื่องการตกเบ็ดก็ยังได้รับรายงานว่า ในพื้นที่แถบภาคตะวันออกเฉียงเหนือ มีคนไปตกเบ็ดหน้าด้าน ๆ โดยเรียกเก็บเงินผู้สมัครสอบสูงถึงหลักแสนบาทโดยอ้างว่าสามารถช่วยให้ผ่านการสอบครั้งนี้ได้ แต่ถ้าไม่ได้ก็จะคืนเงินให้ อย่างไรก็ตาม เชื่อมั่นว่า ผอ.เขตพื้นที่ฯ ทุกคนที่เกี่ยวข้องกับการจัดสอบครั้งนี้จะไม่กระทำการทุจริตใด ๆ เนื่องจากมีตำแหน่งของแต่ละคนเป็นเดิมพัน”นายอภิชาติกล่าวและว่า เท่าที่ได้รับรายงานทราบว่าแต่ละสนามสอบมีมาตรการป้องกันการทุจริตด้วยวิธีการต่าง ๆ อย่างเข้มงวด เช่น การพิมพ์ลายนิ้วมือเพื่อพิสูจน์ตัวบุคคล ถ่ายภาพผู้เข้าสอบ รวมถึงได้รับความร่วมมือจากคณะกรรมการกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์(กสทช.) ในการนำเครื่องแสกนอุปกรณ์สื่อสารและตัดสัญญาณ ไปติดตั้งไว้ที่สนามสอบที่มีเข้าสอบตั้งแต่ 2,000 คนขึ้นไป และยังมีเจ้าหน้าที่ตำรวจมาอำนวยสะดวกด้วย ทั้งนี้จะสามารถประกาศผลสอบได้ในวันที่ 2 พ.ค.และจะเร่งบรรจุให้ทันก่อนเปิดภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2557

คลิปข่าวจากสื่อมวลชน

วรพงษ์ แจ่มจำรัส/ ธเนศ ไชยสุวรรณ

สรุปรายงาน

20 เมษายน 2557

email ผู้ดูแลเว็บไซต์ : [email protected]