Q : จำนวนโรงเรียนในสังกัดมีจำนวนเท่าไหร่ และผู้อำนวยการโรงเรียนชื่ออะไร
A : สามารถตรวจสอบข้อมูลได้จากระบบ สารสนเทศแสดงข้อมูลโรงเรียนในสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษากรุงเทพมหานคร เขต 1 ได้ที่นี่ (คลิก)
 

Q : จำนวนนักเรียน และจำนวนครู ของโรงเรียนในสังกัด มีจำนวนเท่าไหร่
A : สามารถตรวจสอบข้อมูลได้จากระบบ สารสนเทศแสดงจำนวนนักเรียนแผนที่โรงเรียน ได้ที่นี่ (คลิก)
 

Q : เขตพื้นที่บริการเกี่ยวกับการรับนักเรียนหมายความว่าอย่างไร
A : เป็นพื้นที่โดยรอบที่โรงเรียนให้บริการรับนักเรียนเข้าเรียน โดยคำนึงถึงความสะดวกในการเดินทางของนักเรียน การแบ่งพื้นที่มีการประสานระหว่างโรงเรียนใกล้เคียง ให้ครอบคลุมพื้นที่ทั้งหมดโดยอาจมีการทับซ้อนกันบ้าง
 

Q : จะสามารถตรวจสอบเขตพื้นที่บริการได้อย่างไร
A : สามารถตรวจสอบข้อมูลได้จากระบบ สารสนเทศแสดงเขตพื้นที่บริการ  ได้ที่นี่ (คลิก)


Q : คุณสมบัติของนักเรียนในเขตพื้นที่บริการ
A : 1) นักเรียนต้องมีชื่อยู่ในทะเบียนบ้านที่อยู่ในเขตพื้นที่บริการของโรงเรียนอย่างน้อย 2 ปี นับถึงวันที่ 16 พฤษภาคมของปีการศึกษาที่มีการรับนักเรียน
     2) ต้องอาศัยอยู่จริงกับบิดา มารดา หรือผู้ปกครองตามมาตรา 4 แห่งพระราชบัญญัติการศึกษาภาคบังคับ พ.ศ. 2545 ที่เป็นเจ้าบ้านหรือเจ้าของบ้าน


Q : ช่วงเวลาการรับนักเรียนกำหนดไว้อย่างไร
A : กำหนดช่วงเวลาการรับนักเรียนโดยให้นับวันเริ่มต้น คือ วันแรกของการรับสมัครนักเรียน และวันสิ้นสุด  คือ วันมอบตัวนักเรียน ตามปฏิทินการรับนักเรียน ปีการศึกษานั้นๆ 
 

Q : โรงเรียนสามารถใช้ งบดำเนินงาน ในลักษณะใดได้บ้าง
A : งบดำเนินงาน ใช้เป็นงบในลักษณะของค่าตอบแทน ค่าใช้สอย ค่าวัสดุ และค่าสาธารณูปโภค เช่น ค่าเดินทางไปราชการ ค่าจัดประชุม อบรม สัมมนา ค่าจัดซื้อวัสดุ ค่าเช่าใช้สัญญาณอินเทอร์เน็ต เป็นต้น โรงเรียนไม่สามารถนำงบดำเนินงานไปจัดซื้อครุภัณฑ์ได้
 

Q : โรงเรียนจะของบประมาณค่าปรับปรุงซ่อมแซม ต้องดำเนินการอย่างไร
A : การของงบประมาณรายการค่าปรับปรุงซ่อมแซม โรงเรียนต้องจัดทำประมาณการราคา ในแบบ ปร.4 ปร.5 และ ปร.6 ค่า Factor f และแบบรูปรายการ พร้อมภาพถ่ายบริเวณที่จะซ่อมแซมปรับปรุง จัดส่งเอกสารข้างต้นถึง สพท. เพื่อดำเนินการต่อไป
 

Q : โรงเรียนจะของบประมาณค่าขยายเขตไฟฟ้า ต้องดำเนินการอย่างไร
A : โรงเรียนต้องติดต่อกับการไฟฟ้านครหลวง เพื่อให้การไฟฟ้านครหลวงจัดทำใบเสนอราคา จากนั้นโรงเรียนต้องจัดทำประมาณการราคา ในแบบ ปร.4 ปร.5 และ ปร.6 ค่า Factor f และแบบรูปรายการ เช่นเดียวกับการของงบประมาณรายการค่าปรับปรุงซ่อมแซม กรณีต้องการปรับปรุงระบบไฟฟ้าภายในโรงเรียนโดยไม่ขยายกำลังส่ง และเปลี่ยนหม้อแปลงให้ดำเนินการเช่นเดียวกับค่าปรับปรุงซ่อมแซม โดยการจัดทำประมาณการราคาจะมีแต่เฉพาะรายการไฟฟ้าเท่านั้น
 

Q : โรงเรียนโรงเรียนประสบภัยธรรมชาติ เช่น พายุ น้ำท่วม ฯ ต้องดำเนินการอย่างไร
A : กรณีโรงเรียนประสบภัยธรรมชาติ และประสงค์จะของบประมาณเร่งด่วน โรงเรียนจะต้องดำเนินการ ดังนี้
    1) รายงานผู้บังคับบัญชาขั้นต้นภายใน 24 ชั่วโมง
    2) บันทึกเหตุการณ์ในบันทึกเหตุการณ์ประจำวัน
    3) แต่งตั้งคณะกรรมการสำรวจความเสียหาย
    4) คณะกรรมการตามข้อ 3) รายงานความเสียหาย
    5) จัดทำประมาณการราคา ในแบบ ปร.4 ปร.5 และ ปร.6 ค่า Factor f และแบบรูปรายการ
    6) จัดทำข้อมูล ภาพถ่ายบริเวณที่ได้รับความเสียหาย
    7) จัดส่งเอกสารตามข้อ 2) ถึง 6) ส่ง สพท. เพื่อดำเนินการต่อไป
 

Q : การตรวจหาเชื้อ ไวรัสโคโรนา 2019 หรือโรคโควิด 19 สถานพยาบาลของเอกชน ในกรณีอยู่ในกลุ่มเสี่ยงแต่ไม่มีอาการ จะสามารถเบิกค่ารักษาพยาบาลได้หรือไม่
A :  การเบิกจ่ายดำเนินการตาม หนังสือกรมบัญชีกลาง ด่วนที่สุด ที่ กค 0416.4/ว 273 ลงวันที่ 18 มิถุนายน พ.ศ. 2563   เรื่อง หลักเกณฑ์และอัตราค่ารักษาพยาบาลประเภทผู้ป่วยนอกและผู้ป่วยในสถานพยาบาลของเอกชน กรณีผู้มีสิทธิหรือบุคคลในครอบครัวเสี่ยงหรือติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโรคโควิด 19  สรุปการเบิกจ่าย ดังนี้ 
    1. ผู้มีสิทธิหรือบุคคลในครอบครัว  ที่มีอาการไข้ ไอ เจ็บคอ หอบเหนื่อย หรือมีอาการของโรคปอดอักเสบ  เข้ารับการตรวจรักษา และแพทย์ผู้รักษาได้มีความเห็นว่า เสื่ยงหรือติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019จะสามารถเบิกจ่ายตรงกับกรมบัญชีกลางได้ตามสิทธิ
    2. หากไม่มีอาการ ไปขอตรวจหาเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 สถานพยาบาลจะให้ผู้รับการตรวจ จ่ายเงินและรับใบเสร็จรับเงิน   หากผู้รับการตรวจ จะนำมาเบิกกับทางราชการ กรณีนี้ จะต้องขอทำความตกลงไปยังกรมบัญชีกลาง โดยต้องผ่านไปยัง สพฐ.ก่อน เนื่องจากไม่เข้าหลักเกณฑ์ตามหนังสือกรมบัญชีกลาง  ซึ่งไม่สามารถจะประมาณระยะเวลาได้  เนื่องจากต้องรอกรมบัญชีกลางตอบกลับมาว่าสามารถเบิกจ่ายเงินได้หรือไม่
 

Q : ผู้รับเหมาก่อสร้าง/ ผู้ขายสินค้า สอบถามกรณีโรงเรียนส่งเรื่องขอเบิกเงิน การส่งมอบงานก่อสร้าง /ค่าวัสดุ ครุภัณฑ์  แล้ว กี่วัน จะได้รับเงิน
A : หลังจากได้รับเรื่องขอเบิกเงินค่าก่อสร้าง /ค่าวัสดุ ครุภัณฑ์ จากโรงเรียนแล้ว เจ้าหน้าที่จะดำเนินการตรวจสอบเอกสารหลักฐาน หากไม่มีข้อผิดพลาด จะเสนอผู้บริหารเพื่อขออนุมัติเบิก เมื่อได้รับอนุมัติเบิกแล้ว จะดำเนินการขอเบิกเงินจากกรมบัญชีกลางด้วยระบบ GFMIS ประมาณ 3 วัน กรมบัญชีกลางจะโอนเงินเข้าบัญชีผู้ขาย/ผู้รับจ้างโดยตรง
 

Q : การเบิกเงินรายได้สถานศึกษา / เงินประกันสัญญา ใช้อะไรบ้าง  กี่วันโรงเรียนถึงจะได้รับการโอนเงินเข้าบัญชี โรงเรียน
A : หลักฐานในการเบิกเงินรายได้สถานศึกษา /เงินประกันสัญญา คือ หนังสือนำ  ใบเบิกถอน และสำเนาสมุดคู่ฝาก (พร้อมรับรองสำเนา)  ส่งอย่างละ 1 ฉบับ  เจ้าหน้าที่รับเรื่องแล้วตรวจเอกสารครบถ้วน เสนอขอผู้มีอำนาจอนุมัติเบิก หลังจากได้รับอนุมัติแล้วจะดำเนินการขอเบิกเงินจากกรมบัญชีกลางด้วยระบบ GFMIS ประมาณไม่เกิน  5 วัน เจ้าหน้าที่จะโอนเงินเข้าบัญชีโรงเรียนโดยตรง
 

Q  :  กรณีข้าราชการครู ประสงค์ยื่นคำขอมีวิทยฐานะหรือเลื่อนวิทยฐานะ ตามหลักเกณฑ์และวิธีการประเมินตำแหน่งและวิทยฐานะข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ตำแหน่งครู ที่ ก.ค.ศ. กำหนดใหม่ ในปีงบประมาณ พ.ศ 2566 โดยมีผลการประเมินผลงานที่เกิดจากการปฏิบัติหน้าที่ ตามหลักเกณฑ์และวิธีการฯ ว 21/2560 ย้อนหลัง ตั้งแต่ปีการศึกษา 2561 – 2564 ผ่านเกณฑ์ ในปีการศึกษา 2561 และปีการศึกษา 2562 จะสามารถนำมานับรวมกับผลการพัฒนางานตามข้อตกลง เพื่อเป็นคุณสมบัติในการยื่นคำขอตามหลักเกณฑ์และวิธีการใหม่ ในช่วงระยะเวลาเปลี่ยนผ่าน ได้หรือไม่
A  :  ผู้ดำรงตำแหน่งครูที่ประสงค์ยื่นคำขอมีวิทยฐานะหรือเลื่อนวิทยฐานะ ตามหลักเกณฑ์และวิธีการประเมินตำแหน่งและวิทยฐานะ ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ตำแหน่งครู ในปีงบประมาณ พ.ศ. 2566สามารถนำผลงานที่เกิดจากการปฏิบัติหน้าที่ ตามหลักเกณฑ์และวิธีการฯ ว 21/2560 ในช่วงระยะเวลาย้อนหลัง 5 ปีการศึกษา ปีการศึกษาใดก็ได้ที่ผ่านเกณฑ์การประเมิน จำนวน 2 ปีการศึกษา มานับรวมกับ ผลการพัฒนางานตามข้อตกลงรอบแรก (1 ต.ค.2564 - 30 ก.ย. 2565) เพื่อขอมีวิทยฐานะหรือเลื่อน วิทยฐานะได้

 

Q  :  ดำรงตำแหน่งครู วิทยฐานะครูชำนาญการ เมื่อวันที่ 15 กันยายน 2559 ใช้สิทธิ์ในการยื่นคำขอเลื่อนเป็น วิทยฐานะครูชำนาญการพิเศษ ตามหลักเกณฑ์ ว 17/2552 ในช่วงระยะเวลาเปลี่ยนผ่าน ตามที่กำหนด ไว้ในหลักเกณฑ์ ว 21/2560 ไปแล้ว แต่ไม่ผ่านเกณฑ์การประเมิน โดยไม่ได้เก็บผลงาน วฐ. 2 ตามหลักเกณฑ์ ว 21/2560 ไว้ หลักเกณฑ์ PA ใช้บังคับ (1 ต.ค. 2564) ถ้าจะขอเลื่อนเป็นวิทยฐานะครูชำนาญการพิเศษ ตามหลักเกณฑ์ PA จะต้องดำเนินการอย่างไร และมีคุณสมบัติข้อใดบ้าง ?
A  :  หากจะขอเลื่อนเป็นวิทยฐานะครูชำนาญการพิเศษ จะต้องดำเนินการตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่กำหนดไว้ในหมวด 3 โดยต้องมีคุณสมบัตินับถึงวันที่ยื่นคำขอ ดังนี้
    1) ต้องมีวิทยฐานะครูชำนาญการ และได้ปฏิบัติงานตามหน้าที่ความรับผิดชอบในตำแหน่งครู มาแล้วไม่น้อยกว่า 4 ปีติดต่อกัน หรือดำรงตำแหน่งอื่นที่ ก.ค.ศ. เทียบเท่า
    2) มีการพัฒนางานตามข้อตกลง ในช่วงระยะเวลาย้อนหลัง 3 รอบการประเมิน โดยต้องมีผลการประเมินในแต่ละรอบที่นำมาเสนอขอ ไม่ต่ำกว่าร้อยละ 70
    3) มีวินัย คุณธรรม จริยธรรม และจรรยาบรรณวิชาชีพ โดยในช่วงระยะเวลาย้อนหลัง 4 ปีต้องไม่เคยถูกลงโทษทางวินัยที่หนักกว่าโทษภาคทัณฑ์ หรือไม่เคยถูกวินิจฉัยชี้ขาดทางจรรยาบรรณวิชาชีพที่หนักกว่าภาคทัณฑ์
 

Q  :  บรรจุเป็นครูผู้ช่วยเมื่อวันที่ 1 กันยายน 2558 ดำรงตำแหน่งครู เมื่อวันที่ 1 กันยายน 2560 ไม่มีวุฒิปริญญาโท จะมีคุณสมบัติครบและสามารถยื่นคำขอมีวิทยฐานะครูชำนาญการ ตามหลักเกณฑ์ ว 17/2552 วันที่ 1 กันยายน 2566 แต่หลักเกณฑ์ PA กำหนดให้ยื่นตามหลักเกณฑ์และวิธีการเดิมได้ภายในวันที่ 30 กันยายน 2565 ถ้าจะขอมีวิทยฐานะครูชำนาญการต้องทำอย่างไร ?
A  :  ในการขอมีวิทยฐานะครูชำนาญการ ให้ดำเนินการตามแนวปฏิบัติในช่วงระยะเวลาเปลี่ยนผ่าน ตามหลักเกณฑ์ PA หมวดที่ 5 ข้อ 3.2 โดยการยื่นคำขอในปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 ให้เสนอหลักฐาน เพื่อประกอบการพิจารณา ดังนี้
    1) รายงานผลการพัฒนาคุณภาพผู้เรียน (ด้านที่ 3 ส่วนที่ 1 ตามแบบ ก.ค.ศ. 3 หรือ แบบ ก.ค.ศ. 3/1 แล้วแต่กรณี) ตามหลักเกณฑ์และวิธีการฯ ว 17/2552 ในปีการศึกษา 2562 และปีการศึกษา 2563 ที่ผ่านเกณฑ์ หรือ รายงานผลงานที่เกิดจากการปฏิบัติหน้าที่ ตำแหน่งครู รายปีการศึกษา (วฐ.2) ตามหลักเกณฑ์      ว 21/2560 ที่ผ่านเกณฑ์ จำนวน 2 ปีการศึกษา โดยนำเสนอในรูปแบบไฟล์ PDF
    2) ผลการพัฒนางานตามข้อตกลง ในรอบการประเมินของปีงบประมาณ พ.ศ. 2565 (วันที่ 1 ตุลาคม 2564 ถึงวันที่ 30 กันยายน 2565) ที่ผ่านเกณฑ์
    3) แผนการจัดการเรียนรู้ ในรูปแบบไฟล์ PDF ที่ใช้จัดการเรียนรู้ ตามที่ปรากฏในไฟล์วีดีทัศน์บันทึกการสอน ในวิชา/สาขา/กลุ่มสาระการเรียนรู้ ซึ่งผู้ขอได้จัดทำขึ้นและนำไปใช้สอนจริง ในปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 จำนวน 1 ไฟล์
    4) ไฟล์วีดีทัศน์ จำนวน 2 ไฟล์ ประกอบด้วย
        (4.1) ไฟล์วีดีทัศน์บันทึกการสอน จำนวน 1 ไฟล์
        (4.2) ไฟล์วีดีทัศน์ที่แสดงให้เห็นถึงสภาพปัญหา ที่มา หรือแรงบันดาลใจในการจัด การเรียนรู้ตามข้อ 3) จำนวน 1 ไฟล์
    5) ผลลัพธ์การเรียนรู้ของผู้เรียน ซึ่งเป็นผลงานหรือผลการปฏิบัติของผู้เรียนที่ปรากฏภายหลังจากการจัดการเรียนรู้และการจัดการชั้นเรียน ตามไฟล์วีดีทัศน์บันทึกการสอน จำนวนไม่เกิน 3 ไฟล์
 

Q  :  เดิมดำรงตำแหน่งครู วิทยฐานะครูชำนาญการ ต่อมาได้รับการบรรจุและแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการสถานศึกษา วิทยฐานะผู้อำนวยการชำนาญการ เมื่อวันที่ 3 พฤษภาคม 2564 สามารถยื่นคำขอ มีวิทยฐานะผู้อำนวยการชำนาญการพิเศษ ตามหลักเกณฑ์ ว 17/2552 ได้หรือไม่ และสามารถยื่นได้เมื่อใด ?
A  :  ตามหลักเกณฑ์ PA ในช่วงระยะเวลาเปลี่ยนผ่าน กำหนดให้ผู้ดำรงตำแหน่งผู้บริหารสถานศึกษา ที่ได้รับการบรรจุและแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งผู้บริหารสถานศึกษาก่อนวันที่ 1 ตุลาคม 2564 และมีคุณสมบัติครบถ้วนตามหลักเกณฑ์และวิธีการฯ ว 17/2552 ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2565 ให้สามารถยื่นคำขอ พร้อมเอกสารหลักฐานถึงสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา ส่วนราชการ หรือสำนักงาน ก.ค.ศ. แล้วแต่กรณี ภายใน 30 วัน นับแต่วันที่มีคุณสมบัติครบ ได้รับการบรรจุและแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการสถานศึกษา ก่อนวันที่ 1 ตุลาคม 2564 แต่เป็นผู้มีคุณสมบัติครบตามหลักเกณฑ์ ว 17/2552 หลังจากหลักเกณฑ์ PA ใช้บังคับ ดังนั้น สามารถยื่นคำขอมีวิทยฐานะผู้อำนวยการชำนาญการพิเศษ ตามหลักเกณฑ์และวิธีการฯว 17/2552 ภายใน 30 วัน นับจากวันที่มีคุณสมบัติครบถ้วน โดยสามารถยื่นคำขอเลื่อนวิทยฐานะผู้อำนวยการชำนาญการพิเศษได้ ตั้งแต่วันที่ 1 พฤษภาคม 2566 ถึงวันที่ 30 พฤษภาคม 2566
 

Q  :  เมื่อหลักเกณฑ์และวิธีการประเมินตำแหน่งและวิทยฐานะที่ ก.ค.ศ. กำหนดใหม่ มีผลบังคับใช้        (1 ต.ค. 64) ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ทุกคน ที่ดำรงตำแหน่งครู ผู้บริหารสถานศึกษา ศึกษานิเทศก์ และตำแหน่งผู้บริหารการศึกษา จะต้องจัดทำข้อตกลงในการพัฒนางานกับผู้บังคับบัญชา ใช่หรือไม่ ?
A  :  ใช่ ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาทุกคน ที่ดำรงตำแหน่งครู ผู้บริหารสถานศึกษา ศึกษานิเทศก์ และตำแหน่งผู้บริหารการศึกษา ต้องจัดทำข้อตกลงในการพัฒนางานกับผู้บังคับบัญชา ตั้งแต่วันที่หลักเกณฑ์และวิธีการประเมินตำแหน่งและวิทยฐานะ ที ก.ค.ศ. กำหนดใหม่ มีผลบังคับใช้ (1 ต.ค. 64) เพื่อใช้เป็นองค์ประกอบหนึ่งในการเลื่อนเงินเดือน การประเมินคงวิทยฐานะ (ตามมาตรา 55) และใช้เป็นคุณสมบัติ ในการขอมีวิทยฐานะและเลื่อนวิทยฐานะ โดยการประเมินใช้ตัวชี้วัดเดียวกัน
 

Q  :  ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ตำแหน่งผู้บริหารสถานศึกษา และตำแหน่งศึกษานิเทศก์ ที่ประสงค์จะยื่นคำขอครั้งใหม่ในวิทยฐานะเดิม ตามหลักเกณฑ์และวิธีการประเมินตำแหน่ง และวิทยฐานะที่ ก.ค.ศ. กำหนดใหม่ จะต้องดำเนินการอย่างไร ?
A  :  ต้องได้รับหนังสือแจ้งมติไม่อนุมัติผลการประเมินคำขอที่ยื่นไว้เดิมก่อน จึงจะสามารถยื่นคำขอครั้งใหม่ ต่อสถานศึกษา สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา สำนักงานศึกษาธิการจังหวัด สำนักงาน กศน.จังหวัด/กรุงเทพมหานคร สำนักงานการศึกษาเอกชนจังหวัด หรือสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา แล้วแต่กรณี ได้ตลอดปี ปีละ 1 ครั้งพร้อมหลักฐานในรูปแบบไฟล์วิดีทัศน์ ไฟล์ภาพ หรือ ไฟล์ PDF จำนวน 1 ชุด เพื่อให้ผู้รับผิดชอบนำข้อมูล เข้าสู่ระบบ DPA
 
Q  :  ผู้ยื่นคำขอเลื่อนเป็นวิทยฐานะเชี่ยวชาญ จะต้องส่งผลงานทางวิชาการด้วย ผลงานวิชาการนั้นจำเป็นจะต้องเป็นผลงานวิจัยใช่หรือไม่ ?

A  :  1) ผู้ยื่นคำขอเลื่อนเป็นวิทยฐานะครูเชี่ยวชาญ ผลงานที่เสนอขอในด้านที่ 3 ผลงาน ทางวิชาการ เป็นผลงานวิจัยการจัดการเรียนรู้หรือนวัตกรรมการจัดการเรียนรู้ (จะเป็นผลงานวิจัยการจัดการเรียนรู้หรือนวัตกรรมการจัดการเรียนรู้ก็ได้ ให้เลือก 1 รายการ)
       2) ผู้ยื่นคำขอเลื่อนเป็นวิทยฐานะรองผู้อำนวยการเชี่ยวชาญหรือผู้อำนวยการเชี่ยวชาญ ผลงานที่เสนอขอในด้านที่ 3 ผลงานทางวิชาการ เป็นผลงานวิจัยเกี่ยวกับการพัฒนาสถานศึกษาหรือนวัตกรรมการบริหารจัดการศึกษา (จะเป็นผลงานวิจัยเกี่ยวกับการพัฒนาสถานศึกษาหรือนวัตกรรมการบริหารจัดการศึกษาก็ได้ ให้เลือก 1 รายการ)
       3) ผู้ยื่นคำขอเลื่อนเป็นวิทยฐานะศึกษานิเทศก์เชี่ยวชาญ ผลงานที่เสนอขอในด้านที่ 3 ผลงาน ทางวิชาการ ผลงานวิจัยเกี่ยวกับการพัฒนาการนิเทศการศึกษาหรือนวัตกรรมในการนิเทศการศึกษา (จะเป็นผลงานวิจัยเกี่ยวกับการพัฒนาการนิเทศการศึกษาหรือนวัตกรรมในการนิเทศการศึกษาก็ได้ ให้เลือก 1 รายการ)
       4) ผู้ยื่นคำขอเลื่อนเป็นวิทยฐานะเชี่ยวชาญ สำหรับตำแหน่งผู้บริหารการศึกษา ผลงานที่เสนอขอ            ในด้านที่ 3 ผลงานทางวิชาการ เป็นผลงานวิจัยเกี่ยวกับการพัฒนาการบริหารและการจัดการศึกษาหรือนวัตกรรม การบริหารและการจัดการศึกษา (จะเป็นผลงานวิจัยเกี่ยวกับการพัฒนาการบริหารและการจัดการศึกษา หรือนวัตกรรมการบริหารและการจัดการศึกษาก็ได้ ให้เลือก 1 รายการ)
 

Q  :  กรณีผู้ดำรงตำแหน่งครู วิทยฐานะครูชำนาญการพิเศษ อายุ 58 ปี ไม่ประสงค์ยื่นคำขอรับการประเมินพื่อเลื่อนเป็นวิทยฐานะครูเชี่ยวชาญ จะต้องจัดทำข้อตกลงในการพัฒนางานปฏิบัติตามหลักเกณฑ์และวิธีการประเมินตำแหน่งและวิทยฐานะข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ตำแหน่งครู ในปีงบประมาณ พ.ศ. 2564 ด้วยหรือไม่
A  :  แม้ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาไม่ประสงค์ขอรับการประเมินเพื่อมีวิทยฐานะหรือ เลื่อนวิทยฐานะใด ๆ แล้วก็ตาม ยังคงต้องจัดทำข้อตกลงในการพัฒนางานกับผู้บังคับบัญชา เนื่องจากผล การประเมินการพัฒนางานตามข้อตกลง (PA) ใช้เป็นองค์ประกอบหนึ่งในการพิจารณาเลื่อนเงินเดือนและใช้ ในการประเมินเพื่อคงวิทยฐานะ ตามมาตรา 55

Q : หากมีความประสงค์จะให้สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา ออกหนังสือรับรองเพื่อส่งต่อเข้าเรียนที่ศูนย์บริการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย ต้องมีคุณสมบัติอย่างไร และต้องใช้หลักฐานอะไรบ้าง
A : สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษากรุงเทพมหานคร เขต 1 จะออกหนังสือรับรองเพื่อส่งต่อเข้าเรียน ที่ศูนย์บริการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย โดยมีเงื่อนไข ดังนี้ 1) ต้องมีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้าน ในเขตการปกครองที่อยู่ในพื้นบริการ หรือ 2) ต้องเคยศึกษาในสถานศึกษาสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษากรุงเทพมหานคร เขต 1 และหลักฐานที่ใช้ ประกอบด้วย 1) สำเนาทะเบียนบ้าน 2) สำเนาระเบียนแสดงผลการเรียน
 

Q : หากมีความประสงค์จะให้สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา ออกหนังสือรับรองสถานภาพสถานศึกษาเป็นภาษาอังกฤษ เพื่อใช้ในการไปศึกษาต่อต่างประเทศ ต้องใช้หลักฐานอะไรบ้าง
A : นักเรียนสามารถติดต่อกรอกคำร้องขอหลักฐานการศึกษาเป็นภาษาอังกฤษ ที่กลุ่มส่งเสริมการจัดการศึกษา ชั้น 2  อาคารหอประชุมพญาไท โดยแนบหลักฐานสำเนาระเบียนแสดงผลการเรียน
 

Q : หากประชาชนทั่วไป องค์กรชุมชน องค์เอกชน องค์กรวิชาชีพ มีความประสงค์ขอจัดการศึกษาขั้นพื้นฐาน จะต้องดำเนินการอย่างไร
A : ประชาชนทั่วไป องค์กรชุมชน องค์เอกชน องค์กรวิชาชีพ หากมีความประสงค์ขอจัดการศึกษาขั้นพื้นฐาน สามารถศึกษาแนวปฏิบัติ ได้ที่นี่ (คลิก)

Q : หากข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา มีความประสงค์ขอลาศึกษาต่อ ณ ต่างประเทศ จะต้องดำเนินการอย่างไร
A : รายละเอียดและขึ้นตอน การขอลาศึกษาต่อ ณ ต่างประเทศ

Q&A การประกันคุณภาพการศึกษา

email ผู้ดูแลเว็บไซต์ : [email protected]